8 เมล็ดพืชที่นกสามารถทานได้และมีประโยชน์

8 เมล็ดพืชที่นกสามารถทานได้และมีประโยชน์

นกแก้วจะรู้สึกสนุกเมื่อได้กินเมล็ดพืชสำหรับนก พวกมันจะใช้ปากกัดแทะเพื่อกินเมล็ดพืช หากภายในกรงมีอาหารอยู่หลายอย่าง เช่น เมล็ดพืช ผักและผลไม้สด พวกมันก็เลือกที่จะกินเมล็ดพืชเป็นหลัก  อย่างไรก็ตามคุณไม่ควรให้นกแก้วกินเมล็ดพืชในปริมาณที่มากเกินไป

และควรหลีกเหลี่ยงการให้นกแก้วกินเมล็ดพืชเพียงอย่างเดียวจะทำให้พวกมันได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ เช่น โรคอ้วน โรคตับไขมัน และการขาดวิตามิน 

คุณควรให้นกได้กินผักและผลไม้สลับกับไปในแต่ละวันจะช่วยทำให้นกแก้วได้รับสารอาหารที่เพียงพอและป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพ

1. เมล็ดฟักทอง

นกแก้วกินเมล็ดฟักทองได้

เมล็ดฟักทองไม่ใช่แค่ขนมขบเคี้ยวสำหรับมนุษย์เท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารที่ยอดเยี่ยมสำหรับนกแก้วอีกด้วย! เมล็ดเหล่านี้อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท นอกจากนี้ยังมีวิตามินอี สังกะสี และแมกนีเซียมในปริมาณสูง ซึ่งล้วนเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมของนกแก้ว

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เมล็ดฟักทองยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า “คิวเคอร์บิติน” (cucurbitin) ซึ่งมีคุณสมบัติในการขับพยาธิ นี่ทำให้เมล็ดฟักทองเป็นทั้งอาหารเสริมและยาธรรมชาติสำหรับนกแก้วของคุณ อย่างไรก็ตาม ควรให้ในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากมีไขมันสูง

วิธีการให้ที่ดีที่สุดคือการบดเมล็ดฟักทองให้ละเอียดและโรยลงบนอาหารหลักของนกแก้ว หรือผสมกับผลไม้สดเป็นของว่าง การทำเช่นนี้จะช่วยให้นกแก้วได้รับประโยชน์สูงสุดจากสารอาหารในเมล็ด และยังเป็นการกระตุ้นพฤติกรรมการหาอาหารตามธรรมชาติอีกด้วย

2. เมล็ดมะละกอ

นกแก้วกินเมล็ดมะละกอได้

เมล็ดมะละกออาจดูไม่น่ากิน แต่กลับเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์มากมายสำหรับนกแก้ว เมล็ดเหล่านี้มีซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารเอมไซน์ที่ช่วยในการย่อยอาหารและดูดซับสารอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ และวิตามินซีที่จำเป็นต่อระบบภูมิคุ้มกันของนกแก้ว

สิ่งที่น่าสนใจคือ เมล็ดมะละกอมีรสเผ็ดเล็กน้อยคล้ายพริกไทย ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและเพิ่มพลังงานให้กับนกแก้วของคุณ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต้านเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งอาจช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้

การให้เมล็ดมะละกอแก่นกแก้วนั้นต้องทำอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีฤทธิ์แรง ควรเริ่มจากปริมาณน้อยๆ ก่อน เช่น 1-2 เมล็ดต่อสัปดาห์ สำหรับนกแก้วขนาดกลาง และสังเกตการตอบสนอง วิธีที่ดีที่สุดคือการบดเมล็ดให้ละเอียดและผสมกับอาหารหลัก หรือโรยบนผลไม้สดเป็นของว่าง

อย่างไรก็ตาม ควรระวังไม่ให้มากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ และหากนกแก้วของคุณมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารอยู่แล้ว ควรปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนให้เมล็ดมะละกอ

3. เมล็ดเจีย

นกแก้วกินเมล็ดเจียได้

เมล็ดเจียได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้รักสุขภาพ แต่คุณรู้หรือไม่ว่ามันยังเป็นอาหารเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับนกแก้วอีกด้วย เมล็ดเล็กๆ เหล่านี้อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 โปรตีน และเส้นใยอาหาร ซึ่งล้วนมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมของนกแก้ว

สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับเมล็ดเจียคือ ความสามารถในการดูดซับน้ำได้มากถึง 12 เท่าของน้ำหนักตัวเอง เมื่อแช่น้ำ เมล็ดจะพองตัวและกลายเป็นเจลหนืด ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายนกแก้ว นอกจากนี้ ยังช่วยให้นกแก้วรู้สึกอิ่มนานขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนกที่มีปัญหาน้ำหนักเกิน

เมล็ดเจียยังมีแคลเซียมสูง ซึ่งสำคัญมากสำหรับการสร้างกระดูกและขนที่แข็งแรง นกแก้วที่ได้รับเมล็ดเจียเป็นประจำมักมีขนที่เงางามและแข็งแรงกว่า นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัยและป้องกันโรคต่างๆ

สารอาหารในเมล็ดเจีย

  • กรดไขมันโอเมก้า 3
  • ไฟเบอร์
  • แมกนีเซียม
  • แมงกานีส
  • ฟอสฟอรัส
  • กรดโฟลิค
  • ไนอาซิน

4. เมล็ดงา

นกแก้วกินเมล็ดงาได้

เมล็ดงาปรากฏขึ้นเมื่อดอกไม้สีชมพูและสีขาวของพืชที่ได้รับการปฏิสนธิ เนื่องจากเมล็ดงามีขนาดเล็กนกแก้วจึงสนุกเมล็ดงาอาจมีขนาดเล็ก แต่อัดแน่นไปด้วยคุณประโยชน์มากมายสำหรับนกแก้ว นอกจากจะเป็นแหล่งแคลเซียมชั้นเยี่ยมแล้ว เมล็ดงายังอุดมไปด้วยไขมันดี โปรตีน และวิตามินอี ซึ่งล้วนมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูก ขน และระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เมล็ดงามีสารพิเศษที่เรียกว่า “เซซามิน” (sesamin) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ? สารนี้อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็งในนกแก้วได้ นอกจากนี้ เมล็ดงายังมีไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งเป็นสารที่คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน อาจช่วยในการควบคุมฮอร์โมนและลดความเสี่ยงของการวางไข่ผิดปกติในนกเพศเมีย

เมล็ดงาดำมีสารอาหารมากกว่าเมล็ดงาขาวเล็กน้อย โดยเฉพาะแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัยและป้องกันโรค การผสมเมล็ดงาทั้งสองชนิดจะให้ประโยชน์สูงสุด

5. เมล็ดแตงโม

นกแก้วกินเมล็ดแตงโมได้

เมล็ดแตงโมอาจถูกมองข้ามบ่อยครั้ง แต่จริงๆ แล้วเป็นขุมทรัพย์แห่งสารอาหารสำหรับนกแก้ว เมล็ดเหล่านี้อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมันดี และแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น แมกนีเซียม สังกะสี และเหล็ก ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพโดยรวมของนกแก้ว

แต่สิ่งที่ทำให้เมล็ดแตงโมโดดเด่นคือ สารพฤกษเคมีพิเศษสองชนิด นั่นคือ ไลโคปีนและซิตรูลลีน ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหาย และอาจลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด ในขณะที่ซิตรูลลีนเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในการไหลเวียนของเลือดและอาจช่วยลดความดันโลหิต

นอกจากนี้ เมล็ดแตงโมยังมีคุณสมบัติในการขับพยาธิ ซึ่งอาจช่วยในการกำจัดพยาธิในระบบทางเดินอาหารของนกแก้วได้อย่างอ่อนโยน โดยไม่ต้องใช้ยาเคมี

สารอาหารในเมล็ดแตงโม

  • แมกนีเซียม
  • ทองแดง
  • โฟเลต
  • สังกะสี
  • โพแทสเซียม

6. เมล็ดทับทิบ

นกแก้วกินเมล็ดทับทิบได้

เมล็ดทับทิมอาจดูเล็กและบอบบาง แต่เต็มไปด้วยประโยชน์มหาศาลสำหรับนกแก้ว เมล็ดเหล่านี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารกลุ่มโพลีฟีนอล ซึ่งช่วยต่อต้านการอักเสบและชะลอวัย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งวิตามินซีธรรมชาติที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเมล็ดทับทิมคือ น้ำมันพุนิซิก (punicic acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 5 ที่หายาก สารนี้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังมีสารที่เรียกว่า อีลลาจิก แอซิด (ellagic acid) ซึ่งมีคุณสมบัติต้านมะเร็งและอาจช่วยชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้

เมล็ดทับทิมยังมีเส้นใยสูง ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและรักษาสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังมีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น แมกนีเซียม โพแทสเซียม และสังกะสี ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการทำงานของเซลล์และการเผาผลาญพลังงาน

7. เมล็ดฝรั่ง

นกแก้วกินเมล็ดฝรั่งได้

เมล็ดฝรั่งอาจไม่เป็นที่รู้จักมากนักในฐานะอาหารเสริมสำหรับนกแก้ว แต่จริงๆ แล้วมีประโยชน์มากมายที่น่าสนใจ เมล็ดเหล่านี้อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ซึ่งช่วยในการย่อยอาหารและรักษาสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

แต่สิ่งที่ทำให้เมล็ดฝรั่งโดดเด่นคือ สารต้านจุลชีพธรรมชาติที่เรียกว่า “กัวจาวา” (guajava) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสบางชนิด สารนี้อาจช่วยป้องกันการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารของนกแก้วได้ นอกจากนี้ ยังมีสารที่เรียกว่า “เพกติน” (pectin) ซึ่งเป็นเส้นใยละลายน้ำที่อาจช่วยลดคอเลสเตอรอลและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

เมล็ดฝรั่งยังมีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแมกนีเซียม ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระดูกและขนที่แข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีสารที่เรียกว่า “ไลโคพีน” (lycopene) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิดได้

8. เมล็ดมะเขือเทศ

นกแก้วกินเมล็ดมะเขือเทศได้

เมล็ดมะเขือเทศมักถูกทิ้งไป แต่จริงๆ แล้วเป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญสำหรับนกแก้ว เมล็ดเหล่านี้อุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายและอาจลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้ยังมีวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม

แต่สิ่งที่ทำให้เมล็ดมะเขือเทศโดดเด่นคือ กรดอะมิโนจำเป็นที่ครบถ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างเซโรโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ นอกจากนี้ ยังมีกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ในสัดส่วนที่สมดุล ซึ่งช่วยในการพัฒนาสมองและระบบประสาท

เมล็ดมะเขือเทศยังมีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น แมงกานีส ทองแดง และสังกะสี ซึ่งล้วนมีบทบาทสำคัญในการทำงานของเอนไซม์ต่างๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ ยังมีสารที่เรียกว่า “นาริงเจนิน” (naringenin) ซึ่งมีคุณส

ปัญหาสุขภาพทั่วไปจากการกินเมล็ดพืชมากเกินไป

กินเมล็ดพืชมากเกินไปมีปัญหาสุขภาพ

โรคอ้วน

เมล็ดพืชมีไขมันและคลอรี่สูง ดังนั้น การกินมากเกินไปอาจทำให้อ้วนได้ ประกอบกับการขาด การออกกำลังกาย พวกมันมันจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โรคอ้วนหมายถึงน้ำหนักที่มากกว่า 15 % ของน้ำหนักโดยปกติของนกแก้ว

  • โรคอ้วนเป็นอันตราของนกแก้ว ข้อต่อ น้ำหนักที่มากเกินไปทำให้ข้อต่อตึงมากขึ้น
  • ระบบหัวใจและหลอดเลือด หัวใจต้องทำงานหนักมาขึ้นเพื่อสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างกาย
  • ตับ ไขมันสะสมรอบอวัยวะนำไปสู่โรคไขมันพวกตับ

สัญญาณที่บ่งบอกว่านกของคุณมีน้ำหนักที่มากเกินไป

  • หัวล้าน
  • ไม่สามารถออกกำลังกายได้
  • หน้าอกอ้วนมีไขมันสะสม
  • หายใจถี่
  • ไข่ค้าง

การขาดวิตามิน

สารอาหารในเมล็ดพืชขาดวิตามินและแร่ธาตุรวมไปถึงแคลเซียมเมื่อคุณให้นกแก้วทานเมล็ดพืชเป็นเวลานานต้องของคุณจะขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อโครงสร้างกระดูกและความแข็งแรง ความสามารถในการหายใจ การผลิตเมือกเพื่อหล่อลื่นดวงตา จมูกและปาก การย่อยอาหาร คุณภาพขนและผิวหนังวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญที่สุด ได้แก่ แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินดี และวิตามินบี หากไม่มีวิตามินเหล่านี้ 

ปัญหาที่พบเมื่อนกแก้วขาดวิตามิน

  • แผลที่เจ็บปวด
  • แผลในทางเดิน
  • เท้าแห้งเป็นสะเก็ด
  • คุณภาพขนไม่ดี
  • บวมรอบดวงตาและปาก
  • สูญเสียการได้ยิน
  • Lipomas

สรุป

เมล็ดพืชสำหรับนก เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งสารอาหารที่สำคัญ แต่ยังช่วยเพิ่มความหลากหลายในอาหารของนกแก้ว อย่างไรก็ตาม ควรให้ในปริมาณที่เหมาะสมและค่อยๆ เพิ่มปริมาณ เพื่อป้องกันปัญหาด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภคมากเกินไป การผสมผสาน “เมล็ดพืชสำหรับนก” หลากหลายชนิดจะช่วยให้นกแก้วได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม  >>  นกแก้วกินผักอะไรและมีประโยชน์อย่างไร

ใส่ความเห็น