การเลี้ยงลูกกระต่ายด้วยมือคุณจะต้องใช้ความพยายาและทุ่มเทเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยและต้องใช้ความรับผิดชอบ แม่กระต่ายพวกมันไม่ได้ดูแลลูกกระต่ายตลอดเวลาเหมือนที่เราได้ โดยปกติพวกมันจะให้นมวันละ 1-2 ครั้งแล้วจะปล่อยลูกกระต่ายไว้ตามลำพัง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติและพฤติกรรมปกติ
กระต่ายในป่าแม่กระต่ายจะพยามห่างออกมาจากรังของพวกมันให้ได้มากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงสัตว์นักล่า ในช่วง 6 เดือนแรกเกิดของกระต่ายมีความสำคัญต่อสุขภาพในระยะยาว ในขั้นตอนสำคัญของการพัฒนากระต่ายจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง หญ้าแห้งและน้ำดื่มสะอาดเป็นอาหารที่จำเป็น ลูกกระต่ายต้องการโปรตีนในปริมาณมาก ดังนั้นควรให้อาหารเม็ดและหญ้าอัลฟัลฟ่า ลูกกระต่ายมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 200 บาท และมีขายตามร้านสัตว์เลี้ยงทั่วไป หากเลี้ยงกระต่ายตั้งแต่อายุยังน้อย จะทำให้พวกเชื่องและเลี้ยงได้ง่าย
ลูกกระต่ายแรกเกิดกินอะไรเป็นอาหาร ?
ในช่วง 2 สัปดาห์แรกการดูแลลูกกระต่ายค่อนข้างเรียบง่าย แม่กระต่ายจะทำหน้าที่ให้อาหารและทำความสะอาดทั้งหมดคุณเพียงแค่ดูแลให้กล่องรังกระต่ายสะอาดและแห้ง กระต่ายแรกเกิดต้องการน้ำนมแม่ ซึ่งจะเป็นแหล่งสารอาหารในช่วง 2 สัปดาห์แรกของชีวิตพวกมัน และเนื่องจากนมกระต่ายมีพลังงานความร้อนสูงมาก จึงจำเป็นต้องป้อนลูกกระต่ายเพียงวันละสองครั้งเท่านั้น
นอกจากนี้แม่ของพวกมันจะอยู่ห่างจากรังเป็นส่วนใหญ่ถือเป็นเรื่องที่ปกติ ในทุกเช้าคุณควรนำลูกกระต่ายออกมาดูเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าพวกมันได้รับอาหารที่เพียงพอ น้ำหนักของลูกกระต่ายควรเพิ่มขึ้นทุกวัน หากคุณสังเกตเห็นว่าลูกกระต่ายนั้น มีน้ำหนักลดลงอาจะเป็นสัญญาณว่าลูกกระต่ายไม่ได้รับอาหารอย่างเพียงพอ ควรนำไปปรึกษาสัตวแพทย์กระต่ายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ลูกกระต่ายสามารถกินอาหารของแข็งได้เมื่อไหร่ ?
ตั้งแต่อายุประมาณ 2-3 สัปดาห์ ลูกกระต่ายจะเริ่มแทะหญ้าแห้งรอบๆ รัง และในสัปดาห์ที่ 3-4 ลูกกระต่ายจะเริ่มกินอาหารชนิดเดียวกับแม่ของมันในขณะที่ยังกินนมของมันอยู่ เมื่อลูกกระต่ายอายุได้ 6 สัปดาห์ ควรให้นมน้อยลง และเมื่อลูกกระต่ายอายุได้ 8 สัปดาห์ พวกมันจะเข้าสู่ช่วงหย่านม หลังจากนี้ลูกกระต่ายจะสามารถกินอาหารแข็งได้เพระบบย่อยอาหารของพวกมันปรับจากของเหลวเป็นของแข็ง
สำหรับลูกระต่ายที่มีอายุต่ำกว่า 8 สัปดาห์ ไม่ควรป้อนผักสดหรือาหารแข็งให้กับพวกมัน เนื่องจากระบบย่อยอาหารไม่สามารถย่อยของแข็งได้ กระต่ายของคุณจะต้องการโปรตีนน้อยลงและไฟเบอร์มากขึ้น เช่น หญ้าอัลฟัลฟ่า และอาหารอัดเม็ด ควรเป็นหญ้าแห้งอัดเม็ดที่มีคุณภาพโดยไม่มีส่วนผสมของเมล็ดพืชและถั่ว
ลูกกระต่ายกินผักได้ไหม?
สำหรับกระต่ายพวกมันเป็นสัตว์ฟันแทะ กระต่ายในป่าจะกินหญ้าสดและแทะเล็มไปตลอดทั้งวัน และสำหรับกระต่ายเลี้ยง คุณจะไม่สามารถหาหญ้ามาให้กับพวกมันกินได้ตลอดทั้งวัน กระต่ายเลี้ยงจึงกินหญ้าแห้งทดแทน และนอกจากนี้พวกมันยังสามารถกินผัก ผลไม้ อย่างไรก็ตามไม่ควรให้กระต่ายกินผักในปริมาณที่มากเกินไป เนื่องจากสามารถทำให้ระบบย่อยอาหารของพวกมันปั่นป่วนได้
อาหารอัดเม็ดก็ยังเป็นอีกตัวเลือก เมื่อลูกกระต่ายโตเต็มวัย อาหารเม็ดมีความสำคัญต่อกระต่ายอายุน้อยและทารก เนื่องจากพวกมันให้วิตามินและสารอาหารมากมาย อย่างไรก็ตาม น้ำดื่มสะอากก็มีความสำคัญต่อกระต่ายเช่นกัน กระต่ายต้องการน้ำดื่มสะอาดอยู่เสมอ คุณควรใช้ขวดให้น้ำแบบติดกรงกับพวกมันมากกว่าแบบใส่ชาม เพื่อช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียบที่อาจจะลงไปปนเปื้อนได้
อ่านบทความเพิ่มเติม >>> กระต่ายกินอะไร ? อาหาร 6 ชนิด กระต่ายกินได้และดีต่อสุขภาพ
อาหารหลัก 4 อย่างของกระต่าย
- อาหารอัดเม็ด
- ผักและผลไม้สด
- น้ำดื่มสะอาด
- หญ้าแห้ง
หญ้าแห้ง 3 ชนิด
หญ้าแห้งจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เนื่องจากระบบย่อยอาหารของกระต่ายถูกออกแบบมาเพื่อแปรรูปเส้นใยที่พบในหญ้า นอกจากนี้หญ้าแห้งมีหลายประเภทให้เลือก แต่ละประเภทมีคุณภาพแตกต่างกันเล็กน้อย
- หญ้าทิโมธี เป็นหญ้าแห้งที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากหญ้าแห้งนี้เป็นหญ้าสดที่ถูกตัดและทำให้แห้งซึ่งหมายความว่ามันเลียนแบบอาหารของกระต่ายป่า
- หญ้าอัลฟัลฟา สิ่งนี้แตกต่างกันเล็กน้อย มันเป็นพืชตระกูลถั่วมากกว่าหญ้า หญ้าอัลฟัลฟ่าเหมาะสำหรับกระต่ายที่กำลังเติบโต มันมีโปรตีนและแคลเซียมมากกว่าหญ้าแห้งชนิดอื่น จึงทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
- หญ้าโอ๊ต หญ้าแห้งนี้ประกอบด้วยหญ้าข้าวโอ๊ตซึ่งเก็บเกี่ยวก่อนดอกบาน เมื่อข้าวโอ๊ตบาน หญ้าแห้งนี้จะไม่มีคุณค่าทางอาหารสำหรับกระต่ายอีกต่อไป สามารถใช้เป็นที่นอนได้
ผักและผลไม้สดชนิดใดที่เหมาะกับลูกกระต่าย?
ประมาณ 3 เดือนเป็นเวลาที่ดีในสำหรับการแนะนำอาหารสดให้กับกระต่ายของคุณ ตามหลักการแล้ว คุณควรป้อนอาหารสดให้กระต่ายทีละตัว สิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีโอกาสเห็นว่าพวกเขาชอบอะไรมากที่สุดและหากมีผลเสียต่อระบบย่อยอาหารของพวกเขา ผักใบเขียวเป็นอาหารสดที่ยอดเยี่ยมสำหรับป้อนลูกกระต่าย ยอดแครอท คะน้า ผักโขม ผักชีฝรั่งหรือใบโหระพา บรอกโคลี และผักชี สามารถเสนอให้ลูกกระต่ายได้ในปริมาณที่พอเหมาะ
ข้อควรระวังในการเลี้ยงลูกกระต่าย
ลูกกระต่ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่บอบบาง ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดและระมัดระวังเป็นพิเศษ การละเลยรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อาจส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการของพวกเขาได้ ต่อไปนี้คือข้อควรระวังสำคัญสำหรับการเลี้ยงลูกกระต่าย
1. การเลือกที่อยู่อาศัยที่ปลอดภัย
- ขนาดกรงหรือคอก: กรงต้องกว้างพอสำหรับการเคลื่อนไหว แต่ต้องไม่มีช่องที่ลูกกระต่ายสามารถมุดออกไปได้
- ตำแหน่งที่ตั้ง: หลีกเลี่ยงการวางกรงในบริเวณที่มีลมแรง แดดจัด หรือเสียงดัง เพราะลูกกระต่ายอาจเกิดความเครียดง่าย
- วัสดุปูพื้น: หลีกเลี่ยงวัสดุที่อาจเป็นอันตราย เช่น หนังสือพิมพ์ที่มีหมึกพิมพ์ หรือผ้าขนที่อาจพันขา ควรใช้หญ้าแห้งหรือผ้าขนนุ่ม
2. การให้อาหารอย่างเหมาะสม
- นมแม่เป็นสิ่งสำคัญ: ในช่วงแรกเกิดจนถึง 3 สัปดาห์ ลูกกระต่ายควรกินนมแม่เท่านั้น หากแม่กระต่ายไม่สามารถให้นมได้ ต้องใช้นมสูตรเฉพาะสำหรับกระต่าย
- อาหารแข็ง: หากลูกกระต่ายยังอายุน้อยเกินไป ห้ามให้อาหารแข็ง เพราะระบบย่อยอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่
- หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นอันตราย:
- ห้ามให้นมวัว ขนมปัง หรืออาหารที่มีน้ำตาล
- หลีกเลี่ยงผักและผลไม้ที่มีแก๊ส เช่น กะหล่ำปลี บรอกโคลี หรือผลไม้รสเปรี้ยว
3. การจับอุ้มอย่างระมัดระวัง
- วิธีจับที่ถูกต้อง: อุ้มลูกกระต่ายด้วยสองมือ โดยใช้มือหนึ่งรองใต้ตัวและอีกมือหนึ่งประคองขา ห้ามจับที่หูหรือยกตัวลูกกระต่ายด้วยวิธีนี้เด็ดขาด
- หลีกเลี่ยงการตกใจ: ลูกกระต่ายเป็นสัตว์ที่ตกใจง่าย หากอุ้มผิดวิธี อาจทำให้พวกเขากระโดดหลุดมือและได้รับบาดเจ็บ
4. การป้องกันอันตรายจากสัตว์เลี้ยงอื่น
- สัตว์เลี้ยงในบ้าน: ระมัดระวังสัตว์เลี้ยงอื่น เช่น สุนัขและแมว ที่อาจทำอันตรายลูกกระต่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ
- สัตว์ป่า: หากลูกกระต่ายเลี้ยงนอกบ้าน ต้องระวังสัตว์นักล่า เช่น นกหรือแมวจากบริเวณใกล้เคียง
5. การรักษาความสะอาด
- กรงและที่นอน: ทำความสะอาดกรงและเปลี่ยนวัสดุปูพื้นอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ
- ภาชนะใส่อาหารและน้ำ: ควรล้างทุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย
6. การป้องกันปัญหาสุขภาพ
- การตรวจสุขภาพ: หากลูกกระต่ายมีอาการผิดปกติ เช่น ไม่กินอาหาร ซึม หรือมีอาการท้องเสีย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
- การฉีดวัคซีน: ควรปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับวัคซีนและการป้องกันโรคสำหรับลูกกระต่าย
- สังเกตพฤติกรรม: หากลูกกระต่ายเคี้ยวฟันหรือเกาตัวบ่อย อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ
7. การแยกลูกกระต่ายจากแม่
- เวลาที่เหมาะสม: ควรแยกลูกกระต่ายออกจากแม่เมื่ออายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ เพื่อให้ระบบย่อยอาหารและร่างกายแข็งแรงก่อน
- อย่าแยกเร็วเกินไป: การแยกก่อนวัยอาจทำให้ลูกกระต่ายขาดภูมิคุ้มกันและมีโอกาสป่วยสูง
8. การจัดสภาพแวดล้อมที่ไม่ทำให้เครียด
- ให้เวลาในการปรับตัว: หากเพิ่งรับลูกกระต่ายมาใหม่ ควรให้เวลาในการปรับตัวและหลีกเลี่ยงการรบกวน
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงบ่อย: ลูกกระต่ายอาจเกิดความเครียดหากสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น ย้ายกรงหรือเปลี่ยนที่ตั้ง
อ่านบทความเพิ่มเติม >>> ผัก 11 ชนิด ! กระต่ายกินได้ และมีประโยชน์